top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนEmmy S.

CBD ทำให้เกิดอาการพารานอยด์จริงไหม? ลองมาฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ


Woman feeling paranoid

ในขณะที่การใช้ CBD หรือกลุ่มสารแคนนาบินอยด์ (Cannabidiol) ที่พบในพืชกัญชาเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย ความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ของ CBD ก็มีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยหนึ่งในความกังวลที่พบบ่อยก็คือ CBD จะทำให้เกิดอาการพารานอยด์ได้จริงไหม ซึ่งแม้ว่า CBD จะถูกมองว่ามีความปลอดภัยและไม่ทำให้มึนเมา แต่ก็มีรายงานว่ามีผู้ใช้บางรายที่มีอาการวิตกกังวลหรือพารานอยด์หลังจากใช้ CBD ในบทความนี้ เราจะมาดูความสัมพันธ์ระหว่าง CBD กับอาการพารานอยด์ รวมถึงสร้างความกระจ่างให้กับความเข้าใจผิดที่พบบ่อย


แม้จะเป็นที่ทราบกันดีว่า CBD นั้นเป็นสารที่มีความปลอดภัย แต่ก็ยังมีผู้ใช้บางรายที่มีอาการข้างเคียง เช่น มีอาการวิตกังวลหรือพารานอยด์ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ CBD ในปริมาณสูงหรือใช้ผลิตภัณฑ์ CBD คุณภาพต่ำซึ่งมี THC เป็นส่วนประกอบ


CBD ได้ถูกศึกษาวิจัยอย่างแพร่หลายในสรรพคุณทางการแพทย์ ทั้งยังได้รับการยอมรับว่าสามารถนำไปใช้เพื่อการบริโภคได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ดี เช่นเดียวกับสารอื่นๆ ผู้ใช้บางรายอาจมีอาการข้างเคียงจากการใช้ CBD ซึ่งหากคุณยังไม่เคยใช้ CBD ก็ควรจะเริ่มใช้ในปริมาณที่น้อยก่อน แล้วจึงค่อยปรับเพิ่มปริมาณจนกว่าจะได้ปริมาณที่เหมาะกับความต้องการของตัวเอง นอกจากนี้ ยังควรมีการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์หรือบริษัทที่ผลิตก่อนตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ CBD



CBD มีปฏิกิริยาต่อสมองและส่งผลให้เกิดอาการพารานอยด์ได้อย่างไร


แม้ CBD จะได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัยและทนต่อผลข้างเคียงได้ดี แต่ก็มีรายงานว่าผู้ใช้บางรายมีอาการวิตกกังวลหรือพารานอยด์ภายหลังการใช้ CBD ดังนั้น จะสรุปว่า CBD ส่งผลให้เกิดอาการพารานอยด์ได้จริงไหม

หนึ่งในเหตุผลที่อาจกล่าวได้ว่า CBD ส่งผลให้เกิดอาการพารานอยด์ก็คือ CBD นั้นอาจมีปฏิกิริยากับตัวรับบางตัวในสมอง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์และอาการวิตกกังวล โดยจากงานวิจัยเมื่อปี 2019 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Clinical Psychology พบว่า CBD นั้นมีประสิทธิภาพในการลดอาการวิตกกังวลในคนที่เป็นโรคกลัวสังคม ซึ่งในงานวิจัยเดียวกันนี้ยังรายงานต่อไปอีกว่า ผู้เข้าร่วมวิจัยบางรายมีอาการวิตกกังวลเพิ่มขึ้นภายหลังการใช้ CBD อย่างไรก็ดี ควรระลึกไว้ว่า ปริมาณ CBD ที่ใช้สำหรับการทำวิจัยนั้นมีปริมาณค่อนข้างสูง (เกือบ 600 มิลลิกรัมต่อวัน) ซึ่งสูงกว่าปริมาณที่แนะนำโดยทั่วไปสำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์ CBD

อีกหนึ่งปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาก็คือ การมีส่วนประกอบอย่าง THC ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทที่พบในพืชกัญชา แม้ว่าผลิตภัณฑ์ CBD ที่มีวางจำหน่ายอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทยนั้นถูกกำหนดให้มีปริมาณ THC ไม่เกิน 0.2% แต่ในผลิตภัณฑ์ CBD บางตัวอาจมีปริมาณ THC ในระดับที่สูงเกินกว่าที่กำหนดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลิตภัณฑ์ CBD บางตัวซึ่งมีคุณภาพต่ำ โดย THC อาจส่งผลให้เกิดอาการพารานอยด์และวิตกกังวลได้ ดังนั้น หากคุณกำลังใช้ผลิตภัณฑ์ CBD ที่มี THC เป็นส่วนประกอบ จึงอาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีอาการพารานอยด์

ด้วยเหตุนี้ จึงควรระลึกไว้ว่าความอ่อนไหวต่อ CBD ในแต่ละบุคคลอาจมีความแตกต่างกันออกไป โดยบางคนอาจมีโอกาสเกิดอาการวิตกกังวลหรือพารานอยด์ภายหลังการใช้ CBD ได้มากกว่าคนอื่น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากปัจจัยอื่นๆ เช่น พันธุกรรม ประวัติทางการแพทย์ และยาที่ใช้อยู่ ยกตัวอย่างเช่น คนที่เคยมีอาการวิตกกังวลหรือมีปัญหาทางสุขภาพจิตจะมีโอกาสเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ CBD มากกว่า

ถึงที่สุดแล้ว คำตอบของคำถามที่ว่า CBD ทำให้เกิดอาการพารานอยด์จริงไหม อาจไม่สามารถตอบได้เลยว่าจริงหรือไม่จริง และแม้ว่า CBD จะได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัยและทนต่อผลข้างเคียงได้ดี ผู้ใช้ CBD บางรายอาจมีอาการวิตกกังวลหรือพารานอยด์ภายหลังการใช้ CBD โดยเฉพาะคนที่ใช้ CBD ในปริมาณที่สูงเกินไปหรือใช้ผลิตภัณฑ์​ CBD ที่มีคุณภาพต่ำซึ่งมี THB เป็นส่วนประกอบ


Doctor dosing CBD Oil

อย่างไรก็ดี ผู้ใช้ CBD โดยส่วนใหญ่กลับพบว่าไม่มีอาการข้างเคียง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า หลังจากใช้ CBD แล้วรู้สึกสงบและผ่อนคลายมากขึ้น ทั้งยังมีอาการวิตกกังวลน้อยลง ดังนั้น จึงควรเริ่มใช้ CBD ในปริมาณที่น้อยก่อน และคอยประเมินการตอบสนองของร่างกาย โดยหากมีอาการข้างเคียงที่น่ากังวล ควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการรักษาที่ดีที่สุด



วิธีเลือกผลิตภัณฑ์ CBD คุณภาพ

สำหรับการเลือกผลิตภัณฑ์ CBD นั้น คุณภาพมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ก็เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่ทั้งปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งข้อแนะนำในการเลือกผลิตภัณฑ์ CBD คุณภาพสูงมีดังนี้


กรรมวิธีการสกัด CBD: มองหาแบรนด์ที่ใช้วิธีการสกัดด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมีความปลอดภัยและเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่มีตัวทำละลายตกค้างที่อาจเป็นอันตราย นอกจากนี้ ควรตรวจสอบด้วยว่าแบรนด์ที่เลือกนั้นผ่านการทดสอบโดยบุคคลที่สามหรือไม่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่เลือกนั้นปลอดภัยจากสารปนเปื้อน ไม่ว่าจะเป็นโลหะหนักหรือยาฆ่าแมลง

ฉลากระบุข้อมูลตรงกับความเป็นจริง: ฉลากบนผลิตภัณฑ์ควรจะแจ้งปริมาณของ CBD รวมถึงส่วนประกอบอื่นๆ ที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ครบถ้วนตามความเป็นจริง โดยควรตรวจสอบฉลากว่ามีการระบุฤทธิ์ของ CBD ไว้อย่างถูกต้อง รวมถึงยืนยันว่า ข้อมูลที่ระบุบนฉลากนั้นตรงกับข้อมูลที่แสดงบนเว็บไซต์ของแบรนด์ นอกจากนี้ ควรระวังผลิตภัณฑ์ที่ไม่ระบุปริมาณของ CBD ที่ควรใช้ในแต่ละครั้ง

ชื่อเสียงและรีวิว: ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับชื่อเสียงของแบรนด์รวมถึงรีวิวจากลูกค้าเพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพและความน่าเชื่อถือของแบรนด์​ นอกจากนี้ ควรมองหาแบรนด์ที่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาและกระบวนการผลิต รวมถึงมีประวัติของผลการดำเนินงานที่ดี


การทำตามคำแนะนำข้างต้นนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ CBD คุณภาพสูง ซึ่งทั้งปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ



วิธีเลือกผลิตภัณฑ์ CBD ที่ไม่มี THC เป็นส่วนประกอบ

หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับผลต่อระบบจิตประสาทที่อาจเกิดขึ้นได้ของ THC มีหลากหลายวิธีที่สามารถนำไปใช้ในการเลือกผลิตภัณฑ์ CBD ที่ไม่มี THC เป็นส่วนประกอบ:

มองหา CBD Isolate: CBD Isolate เป็น CBD แบบบริสุทธิ์ซึ่งไม่มีส่วนประกอบของสารกลุ่มแคนนาบินอยด์หรือสารธรรมชาติตัวอื่น ด้วยเหตุนี้ CBD isolate จึงปราศจาก THC และสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทตัวอื่นๆ

ตรวจสอบรายงานผลการตรวจจากบุคลลที่ 3: แบรนด์ CBD ที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่จะมีรายงานผลการตรวจจากห้องปฎิบัติการของบุคคลที่สาม ซึ่งแสดงรายละเอียดของปริมาณ CBD และสารกลุ่มแคนนาบินอยด์ตัวอื่นๆ ที่มีในผลิตภัณฑ์ รวมถึงปริมาณของ THC ดังนั้น ควรมีการตรวจสอบรายงานเหล่านี้เพื่อยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์ที่เลือกนั้นไม่มี THC เป็นส่วนประกอบ

หลีกเลี่ยง CBD แบบ Full-Spectrum: ผลิตภัณฑ์ CBD แบบ Full-Spectrum นั้น มีสารกลุ่มแคนนาบินอยด์และ สารธรรมชาติทั้งหมดที่พบในกัญชงเป็นส่วนประกอบ ซึ่งรวมถึง THC สำหรับ CBD แบบ Broad-spectrum นั้น แม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ CBD ที่มีความคล้ายกัน แต่ก็มีการแยก THC ออกไปแล้ว ดังนั้น การเลือกผลิตภัณฑ์ CBD ที่เป็นแบบ CBD isolate จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการหลีกเลี่ยง THC


การทำตามคำแนะนำข้างต้นนี้ จะช่วยให้คุณสามารถเลือกหาผลิตภัณฑ์ CBD ที่ไม่มี​ THC ได้ ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากผลกระทบต่อจิตประสาท



ปริมาณ CBD ที่แนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงอาการพารนอยด์และวิตกกังวล: ข้อควรรู้


ควรพึงระวังไว้ว่า ไม่มีปริมาณ CBD ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใช้ทุกคน เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น น้ำหนักตัว ความต้านทาน รวมถึงผลลัพธ์ที่ต้องการนั้น อาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน อย่างไรก็ดี การใช้ CBD ในปริมาณที่สูงมากเกินไปอาจส่งผลให้มีอาการวิตกกังวลหรือพารานอยด์ได้


โดยทั่วไปแล้ว ปริมาณที่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นใช้ CBD คือ ปริมาณที่น้อย จากนั้นจึงค่อยปรับเพิ่มขึ้นจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ทั้งนี้ ควรเฝ้าสังเกตอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น อาการวิตกกังวลหรือพารานอยด์ ซึ่งจากบทวิเคราะห์ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Cannabis and Cannabinoid Research พบว่า ผู้ที่ใช้ CBD ในปริมาณที่สูงถึง 1,500 มิลิกรัมต่อวันยังคงสามารถทนต่อผลข้างเคียงได้ดี

นอกจากนี้ การพิจารณาถึงประเภทและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ CBD ที่ใช้นั้น ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยผลิตภัณฑ์ CBD ที่คุณภาพต่ำอาจมีการปนเปื้อนหรือมีส่วนประกอบของสสารประเภทอื่นๆ ซึ่งก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ CBD คุณภาพสูงนั้นได้ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดเพื่อให้มั่นใจในความบริสุทธ์และฤทธิ์ของ CBD

ท้ายที่สุดแล้ว วิธีที่ดีที่สุดในการกำหนดปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการใช้ CBD ก็คือ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับ CBD และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถแนะนำตัวเลือกที่หลากหลายของผลิตภัณฑ์ CBD รวมถึงแนะนำทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณได้


ดู 2 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page